วันนี้มาลองดูวิธีการนำ LED มาต่อแทนหลอดไส้แบบเดิมในรถของเรากันดีกว่านะครับ โดยหลอด LED นี้จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดไส้แบบเดิม แถมยังประหยัดพลังงานมากกว่า และไม่ร้อนเหมือนหลอดไส้แบบเดิมอีกด้วยนะครับ แต่มีข้อแม้ว่าเราจะต้องเพิ่มตัวต้านทานเข้าไปเพื่อจำกัดกระแสที่ไหลผ่านตัว LED เสียก่อน
อันดับแรกต้องมาทำการเลือกคุณสมบัติ LED ที่เราจะนำมาใช้ด้วยนะครับ ก็จะดูคราวๆ ที่ขนาดของหลอด, ค่าความสว่าง (MCD), มุนในการกระจายแสง ค่าแรงดันตกคร่อม ตัว LED เองด้วยนะครับ เพราะว่าเราคงต้องต่อมากกว่าหนึ่งหลอด เพื่อต้องการความสว่างเท่ากับหลอดไส้แบบเดิม ลองดูตัวอย่างคุณสมบัติ LED ได้ที่ Superbrightleds.com เพราะถ้า LED ต่างสีกันความยาวคลื่นแสงก็จะต่างกันนะครับ ทำให้แรงดันตกคร่อม LED ต่างกันไปด้วย
ที่นี่ลองมาดูตัวอย่างวงจรในการต่อกันก็มีอยู่สองแบบ คือต่อแบบอนุกรม กับ แบบขนาน ซึ่งจะทำให้ค่า R ที่ใช้แตกต่างกันนะครับ แต่ตอนนี้เราจะต่อใช้กันในรถนะครับซึ่งเป็นไฟตรงจาก Battery 12 Volt อยู่แล้ว ก็เพียงแค่คำนวณค่า R จำกัดกระแสมาต่อเพิ่มให้สอดคล้องกับจำนวน LED ที่เราต้องการครับ ต่อหลายดวงก็สว่างมากครับ ไปคิดต่อกันเอาเองละกัน รายละเอียดเพิ่มเติมไปดูเว็บนี้ละกัน Beginner's Introduction to LED Wiring
จากนั้นมาคำนวณหาค่าความต้านทานที่เราจะต้องต่อเพิ่มเข้าไปในวงจรนะครับ เพื่อจำกัดกระแสไม่ให้ไหลผ่านตัว LED มากเกินไปจนทำให้เกิดการเสียหายเกิดขึ้นได้ ถ้าไม่รู้สูตรก็ลองไปดูหน้านี้แทนละกัน GENERAL LED HANDLING PRECAUTIONS ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับจำนวนตัว LED และประเภทของวงจรที่เราใช้ต่อด้วยนะครับ ถ้า LED หลายตัวสว่างมากๆก็ต้องใช้ R watt สูงๆด้วยนะครับ แต่การนำไปใช้งานกับหลอดไฟทุกๆส่วนในรถต้องดูความเหมาะสมด้วยนะครับ คืออาจใช้ไม่ได้กับหลอดไฟทุกๆดวงที่ทำหน้าที่แตกต่างกันนะครับ อาทิเช่น ไฟเบรค ไฟเพดาน ไฟเลี้ยว ไฟหรี่ อย่างไรลองดูละกัน และที่สำคัญ LED ทั่วไปส่วนใหญจะมีขั้วนะครับ ถ้าไม่ใช้แบบ Bi direction อย่างพวก SMD บางตัว เวลาต่อก็ต้องต่อให้ถูกขั้วด้วยละ
ทีนี้ไปดู Product ที่ใช้ LED กันนะครับ หลากหลายเลยที่เดียว แถมยังช่วยเราประหยัดพลังงานได้อีก อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานทนทานกว่าหลอดไส้ธรรมดาทั่วไปอีกหลายเท่าตัวเลยที่เดียว ถ้านำไปรวมกันกับ SolarCell ก็กล้ายเป็นโคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ไปเลย