หลังจากทดลองติดตั้งใช้งาน HHO จริงในห้องเครื่อง ผ่านไป 2 อาิทิตย์ ก็ปรากฎสภาพ HHO Generator ออกมาอย่างที่เห็นในรูป โดยน้ำจะเปลี่ยนเป็นสีขุ่น มีตะกอน ซึ่งเป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ ลวดที่ใช้มันดันทนการกัดกร่อนไม่ไหว เพราะว่ามันไม่ใช่ stainless steel 316Lจริง เลยต้องมานั่งพันลวดกันใหม่อีกรอบ โดยขั้นตอนการ Run-in เพื่อเริ่มใช้งานของผม ก็จะเป็นไปทีละ step โดยตอนแรก ติดตั้งเสร็จก็ใช้งานแบบ Vaporizer หรือ H2O mode คือยังไม่ต้องปล่อยไฟผ่านขดลวด แต่การใช้งานแบบนี้ จะทำการ charge ประจุ HHO ให้ saturate ก่อน โดยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังไม่ประหยัดเท่าที่ควร จะเป็นลักษณะของ Booster มากกว่า เพื่อทดสอบดูว่าตัวโหลสามารถทนต่อสภาวะแวดล้อมภายใต้ห้องเครื่องได้มากน้อย แค่ไหนก่อนที่จะเริ่มปล่อยไฟผ่านขดลวดเข้าไป
- You are here:
- Blog
- Automotive
พอดีไฟหน้าชิ้นเดียวที่ใส่อยู่ไฟมุมุมันมีแค่รูเดียวให้ใส่ เลยต้องลองต่อ Relay เพิ่มเพื่อให้ไฟเลี้ยวมันเป็นไฟหรี่ได้ในหลอดเดียวกัน โดยพอเราเปิดไฟหรี่ไฟเลี้ยวที่มุมซ้ายขวา กับไฟในกันชนก็จะืติดสว่างทำหน้าที่เป็นไฟหรี่ไปด้วย พอเราเปิดไฟเลี้ยวมันก็จะกระพริบเป็นไฟเลี้ยวได้อีกเหมือนกัน แต่ว่ามันจะกระพริบเร็วขึ้นกว่าตอนที่ไม่ได้เปิดไฟหรี่ อุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้ก็มี
MAP Sensor Enhancer จะเอาไว้ทำการปรับค่า Voltage ที่จะส่งกลับไปยัง ECU เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับระบบ HHO เพื่อให้เครื่องยนต์ยังสามารถทำงานอยู่ได้โดยการฉีดน้ำมันน้อยลง เพราะมีเชื่อเพลิงที่ได้จากแก๊สเข้าไปแทนที่ จึงทำให้เราประหยัดน้ำมันมากขึ้น MAP ย่อมาจาก Manifold Absolute Pressure ค่า Voltage ที่ส่งกลับไปให้ ECU จะเปลี่ยนแปลงตามแรงดันภายในท่อร่วม ID โดยเมื่อเราไม่ได้ทำการเหยียบคัน คือปีกผีเสื้อปิด ภายในจะมีแรงดันสูงค่า Voltage ที่ได้จะอยู่ระหว่าง 1.0-1.5 Volts และเมื่อทำการเหยียบคันเร่ง ปีกผีเสื้อเปิดออก แรงดันในท่อร่วม ID จะลดลง ค่าที่ได้จะอยู่ระหว่าง 4.0-4.5 volts
วันนี้ไปนั่งกินข้าวตอนเที่ยงกลับมาที่รถปรากฎว่าไอ้ตรง fender ด้านหน้ามันยุบเข้าไปด้านในทำให้เวลาเปิดประตู ขอบมันเลยไปเบียดกัน เล่นซะสีร่อนเลย แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปลองทำการพ่นสีตัวถังกันดูว่า มันจะเป็นยังไง ออกมาจะเนียนไหม อันนี้คงต้องขึ้นอยู่ที่ฝีมือกับวิธีการ แต่อันดับแรกต้องไปเตรียมอุปกร์กันให้พร้อมก่อน ที่สำคัญก็ต้ิองไปเลือกสีให้มันใกล้เคียงกับสีิเดิมของตัวรถก่อน ก็ใช้สีพ่นซ่อมสำหรับรถยนต์มันจะทนหน่อย กับพ่น Clear ทับอีกที
จากนั้นก็ไปหาอุปกรณ์เสริมอื่นอีก ก็มีรายการตามด้านล่า
- Auto Spray Classic Dupli-color B metallic 1 กระป๋อง @ 275 ฿ อันนี้ต้องเลือกสีให้ใกล้กันมากที่สุด เค้าบอกว่าให้อ่อนกว่าหน่อย พอพ่น Clear ทับแล้วมันจะเข้มขึ้นมาอีกหน่อยที่สำคัญต้อง Metallic ด้วยจะได้มีประกายแว๊บๆ
- Dupli-color 2 Schicht Klarlack 1 กระป๋อง @ 275฿ อันเอาไว้พ่นทับแล้วจะเงาแว๊บเลย ถ้าใช้ของทั่วไปมันจะเหลืองง่าย (อันนี้มัน Clear ด้านครับ ใช้ไม่ได้ ต้องหา Clearcoat ใหม่ซะแล้ว)
- Snap&Spray 1 อัน @ 150฿ อันนี้เอาไว้แปลงหัวกระป๋องสเปยร์ทั่วไปให้เป็นด้ามจับจะได้ออกแรงพ่นได้สม่ำเสมอ ไปเจอที่ True Value พอดี เจอของเล่นอื่นอีกเพียบเลย
- ฺBosny Primer Grey No.68 1 กระป๋อง @ 49 ฿ อันนี้เอาไว้พ่นรองพื้น กันสนิมได้ด้วย (อันนี้พ่นแล้วพอพ่นสีจริงมันเลยอ่อนไป ส่งสัยมันจะอ่อนเกินไป ไม่ใช้จะดีกว่า)
- ฺBondo Glazing & Putty 1 หลอด @ 130฿ ไปเจอที่ True Value พอดี ก็สีโป้ว นั้นเอง ที่นั้นยังมี Body Filler ขายอีกด้วย
- แล้วก็กระดาษทราย เอาไว้ขัดให้มันเรียบ เบอร์ประมาณ 400-600 น่าจะได้
มาดูขั้นตอนการทำกัน อันนี้ยังไม่รู้ว่าถูกทั้งหมดหรือเปล่า แ่ต่อ่านเอาจากคู่มือ ไล่เอาตามรูปด้านบนเลยละกัน
รูปที่ 3 ก็ต้องทำการลบงอบตรงรอยที่มันแหว่งก่อน เดี๋ยวเวลาโป๊วมันจะไม่เรียบ โดยใช้กระดาษทรายหยาบๆหน่อย ซักเบอร์ 360 จะใช้มือขัดหรือเครื่องก็ได้ แล้วแต่สะดวก ถ้าใช้เครื่องก็เร็วหน่อย โดยทำการขัดลบขอบให้มันเรียบๆหน่อย จากนั้นก้ทำการล้างคราบมั นคราบ wax ออก เดี๋ยวมันโป๊วไม่ติด
ต่อไปก็เอาสีโป๊วมาทำการโป๊ว เอาให้เรียบเลยนะ โดยค่อยๆโป๊ว บางๆ หนาเดี๋ยวมันจะไม่เรียบ โดยอาจใช้เกียงหรืออะไรเรียบๆช่วยปาดก็ได้ ทิ้งไม่ให้แห้ง จากนั้นก้เอากระดาษทรายมาขัด โดยพันรอยไม้แบนๆก็ได้ เวลาขัดจะได้เรียบ เอาซักเบอร์ 360-400 ก็ได้ ขัดไปก็คอยเอามือลูบๆดูว่ามันเรียบหรือยัง พื้นผิวเสมอกันหรือเปล่า ทิ้งไว้ให้แห้งสนิท
รูปต่อไปก็จะมาเริ่มทำการเพ่นแล้ว โดยทำการล้างพื้นผิวให้สะอาดก่อนพ่น ตอนแรกผมพ่นสีรองพื้นไปด้วย พอพ่นสีจริงเข้าไปไม่เวอร์คแหะ ก้ไม่เป็นไรเอากระดาษทรายเบอร์ 400-600 ขัดออกใหม่ได้ ตอนขัดใส่น้ำด้วยก็ดีขัดเรียบกว่า พอพ่นสีเสร็จแห้งดีแล้ว ก็เอากระดาษทรายเบอร์ 400-600 ขัดเบาอีกทีให้เรียบอีกที แล้วล้างให้สะอาด เพื่อรอทำการพ่นเคลียร์ทับ
รูปสุดท้ายก็ตอนพ่นเคลียร์ ก็พ่นปกติ แต่หลังจากนั้นต้องรอให้สีแห้งสนิทจริงจึงจะทำการ Wax ได้ ในรูปเบอร์สียังไม่ค่อยเหมือยน เพราะครั้งก่อนอู่ที่ทำผสมสีเอง ถ้าเรารู้เบอร์สีที่แน่นอนแล้วก้สบายเลย อันนี้ทำครั้งแรกยังไม่ค่อยเนียน
ลองพ่นใหม่อีกที
คราวนี้เริ่มคล่องขึ้นมาหน่อ แต่ยังโป๊วไม่ค่อยเรียบ แต่สีใกล้เคียงใช้ได้เลย ถูกอีกต่างหาก
- เปลี่ยนสีใหม่ เป็นของ Pylac (Nippon Paint) ราคากระป๋องละ 65 บาท กระป๋องใหญ่ 400 CC พ่นกันลืมหมด ถ้าสีไหนต้องใช้สีรองพื้นก็จะเขียนบอกไว้ที่ฝากระป๋อง พอพ่นแล้วต้องพ่น Clear ทับด้วย ก็จะเขียนบอกไว้อีก
- ตามด้วย Clear Coat เบอร์ 230 เงาได้ใจ กระป๋องละ 65บาทเหมือกัน
- ส่วนกระดาษทรายก็มีเบอร์ 120 เพิ่มมา อันนี้ขัดได้ไวทันใจ
- มีชุดเกรียงโป๊วสี จาก Carrefour อีก 3 อัน เพียง 49 บาท
มาดูวิธีการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของ Automatic Transmission อีกวิธีหนึ่ง วิธีนี้ดูเหมือนไม่น่าช่วยอะไรได้แต่พอลองปรับแล้วพบว่า Shift/Lock-Up Control Solenoid Vale ทำงานได้ดีมากขึ้น นั้นก็คือการปรับ Throttle Control Cable ที่มันต่อมาจากสายคันเร่งมาเข้าตรงจะ Throttle Control Lever อันนี้ให้เราปรับให้สั้นลงได้ อีก 3 mm จากจุด Synchronized ก็คือตรงที่ไอ้หมุดกลมๆมันไปเกี่ยวกับ Lever นั้นแหละครับ ปกติมันจะเอาไว้เปลี่ยนเกียร์ตามจังหวะการเหยียบคันเร่งของเรา ประมาณว่า Kick Down การปรับก็ให้ไข Locknut ตัวล่างก่อน จากนั้นก็มาไข Locknut ตัวบน มันก็จะเลื่อนขึ้นมาเรื่อย สายมันจะสั้นลง เอาสัก 3 mm แล้วก็ไขน็อตตัวล่างกลับไปล็อคตามเดิม จากนั้นก็ต่อปลายสายเข้าไปตามเดิมแล้วลองเข้าเกียร์ดู ขับดูจะรู้สึกว่าการทำงานของเกียร์เปลี่ยนไป
มาดูระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์ของตาเพชรกันว่ามันทำงานกันอย่างไร แต่ว่างานี้ต้องเปลี่ยนน้ำยาหล่อเย็นหม้อน้ำได้ด้วย กับถอดหัวจานจ่ายได้อีกนิดหน่อยพื้นที่จะได้โล่งๆ ตาเพชรจะมีคอน้ำเข้าเครื่องอยู่ 2 ทาง ก็ไอ้ท่อยางใหญ่ๆที่ออกมาจากหม้อน้ำด้านบนกับด้านล่างนั้นและ โดยท่อด้านล่างจะต่อเข้าไปยังคอน้ำด้านหลัง แต่คอน้ำด้านหลังนี้มันจะมี Thermostat ที่ทำหน้าที่เปิดปิดทางเดินน้ำเข้าออก ตามอุณหภูมิของน้ำ จากนั้นก็มี Sensor ตรวจจับอุณหภูมิน้ำอีกถึง 4 ตัว เอาไว้ส่งสัญญาณไปยังส่วนต่างๆ
มาดูแนวทางในการตรวจสอบปัญหาเกียร์ออโตของตาเพชรเบื้องต้น ว่าการทำงานที่ผิดปกติของเกียร์นั้นเกิดมาจากส่วนไหนกันแน่ จาก A/T Control Unit หรือจากตัว Sensor ต่างๆที่ประกอบกันอยู่รอบๆตัวเกียร์ หรือจะเกิดมาจากความเสียหายทาง Mechanics จากภายในตัวเกียร์ ก่อนที่จะทำการเปลี่ยนเกียร์ลูกใหม่เข้าไปแทน
ลองมาดูจุดต่อสายดินของ Accord ตาเพชร อีกที่ รวมทั้ง Coupe, Sedan และ Wagon จะมีจุดต่อ ground ลงตัวถังทั้งคันอยู่ประมาณ 24 จุด คือ Ground A - Ground X แต่เราจะมาดูจุด ground ที่สำคัญๆ เพื่อช่วยให้มันนำกระแสไฟฟ้าได้ดีขึ้น เพราะรถมันใช้มานานแล้วนะดิ แต่ไม่รู้จะหาเจอหมดหรือเปล่า เอาแต่ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของเครื่องยนต์กับเกียร์ก็แล้วกัน Grounding point on Accord 4thGen
พอดีเดินเจอสีสำหรับพ่น caliper brake สีแดงที่ต้องการพอดี แหม หามานาน เจอแต่สีดำ เลยซื้อมาลองพ่นดูบาง แบบเห็นเค้าพ่นกันแดงบาง เหลืองบาง เอาวะ แอบเสี่ยวเล็กน้อยอีกคันคงไม่เป็นไรวะ เลยซื้อมา 2 กระป๋อง กระป๋องละ 115 บาท มีแต่กระป๋องเล็ก 150ml ของ Dupli-color มีหลายสีเลย แดง ดำ เหลือง น้ำเงิน สีอย่างอื่นก็มี พ่นไฟท้าย พ่นแม็ก พ่นสีรถก็มี สุดยอด ก่อนอื่นก็ต้องเตรียมตัวถอดล้อ ถอดเบรคก่อน ถ้าใครเคยลองเปลี่ยนผ้าเบรคแล้ว ก็ง่ายหน่อย ค่อยๆทำไปทีละล้อ เตรียมหาหนังสือพิมพ์มา เอาภู่กันมาด้วยถ้ามี เอาไว้แต้มสีบางจุดที่มันพ่นไม่ค่อยติด ตอนถอด Caliper ก็ถือดีๆมันค่อนข้างจะหนัก เดี๋ยวท่ออ่อนน้ำมันเบรคมันจะเสียหายได้
มาดูวิธีถอดคิ้วกันกระแทกด้านข้างออกมาพ่นสีใหม่กันดีกว่า อันนี้เคยไปจ้างเค้าพ่นหลายทีแล้ว พ่นที่ไรลอกทุกที แถมโป้วมาซะหนาเป็นมิลเลย นั่งลอกตั้งนานกว่าจะหมด สงสัยเจอร้านไม่ดีเข้าให้ ทีนี่เลยลองถอดมาพ่นเองดูซะหน่อย ตอนถอดนี่ต้องถอดแผงประตูด้านข้าง ข้างในออกมาก่อนนะครับ โดยตัว Side Molding จะมี Clip อยู่ทั่งหมด 3 แบบ A(Center), B(Side), และ C clips แต่ตัวที่สำคัญที่สุดก็จะเป็นตัว Center Clip เพราะเราต้องใช้คีมหมุนขั้วของคลิปจากด้านในก่อน ถึงจะสามารถถอดตัว Molding ออกมาโดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายกับตัวคิ้วกันกระแทกได้
มาดูวิธีการ tuning หม้อต้มแก๊ส LPG แบบดูดกันดีกว่า หรือที่ฝรั่งเค้าเรียกกันกว่า Reducer Vacuum ตอนแรกติด LPG แบบดูด, switch manual มา เอาแบบถูกสุดเลย เวลาขับรอบมันไม่ค่อยนิ่ง มาเร็วเบร็คกระทันหันดับไปเลยก็มี ก็สงสัยอยู่ เลยต้องหาวิธีจูนใหม่ พอจูนได้ถูกหลักการ ตามที่ใจต้องการแล้ว อาการแบบนั้นมันก็หายไป ติดแบบดูดนี้มันก็เข้าท่าดีเหมือนกันแหะ ไม่ต้องเจาะเครื่องยนต์ด้วย อัตราเร่งก็ OK จะได้ปูทางเอาไว้ Feed HHO ลอง Search หาดูก็มีคนเขียนอยู่หลายคน หลายสูตรครับ ของผมใช้ Atiker Vacuum Reducer Super เลยลองไปจูนดูมั่ง เลยได้ออกมาเป็นอีกแบบ concept หนึ่ง เอาไว้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับ Fixed Mixer
มาดูวิธีแก้ฝากระโปรงท้ายตกกัน เป็นธรรมดารถใช้งานมานาน เวลาเปิดฝากระโปรงท้ายเก็บของที่ไรมันมักจะตกใส่หัวทุกทีเลย เราก็มีวิธีแก้ครับพี่น้อง เตรียมหาไขขวงอันใหญ่ยาวซัก 2 อัน เอามาไว้งัดเข้างัดออกกัน ที่ใต้ฝากระโปรงมันจะมี Torsion Bar อยู่ 2 เส้น ไขว้กันอยู่ สังเกตุดูตามรูปตรงปลายมันจะมีร่องเอาไว้ Lock อยู่ 2 ร่อง ให้เรางัดให้มันเลื่อนไปอยู่ร่องด้านใน เพื่อเพิ่มแรงตึงให้กับมัน แต่ตอนงัดต้องทำตอนฝายังไม่เปิดนะครับ คือแง้มน้อยๆได้ เพราะถ้าทำตอนเปิดแรงตึงมันจะมากงัดไม่ไปหรอก ไปรองดูละกัน โดยปกติเค้าจะปรับเพิ่มตอนติด Spoiler นะครับ